Enprowhey

EnprowheyEnprowheyEnprowhey

Enprowhey

EnprowheyEnprowheyEnprowhey
  • หน้าหลัก
  • ผลิตภัณฑ์
  • การสั่งซื้อ
  • บทความ
  • เพิ่มเติม
    • หน้าหลัก
    • ผลิตภัณฑ์
    • การสั่งซื้อ
    • บทความ
  • หน้าหลัก
  • ผลิตภัณฑ์
  • การสั่งซื้อ
  • บทความ

ความรู้และสาระดีๆ

  

เวย์โปรตีน คืออะไร

เวย์โปรตีน คือ แหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย สกัดได้จากนมวัว โดยการสกัดนี้ได้นำเอาคาร์โบไฮเดรตและไขมันออกไป ให้เหลือแค่โปรตีนอย่างเดียว เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่ครบถ้วนต่อความต้องการในแต่ละวัน จากนั้นก็นำมาผ่านกระบวนการทำให้แห้งเพื่อให้เป็นผง และสามารถเก็บไว้ได้นาน รวมทั้งชงทานได้อย่างง่ายดาย

เวย์โปรตีน แบ่งออกเป็น 3 ชนิด

1 เวย์โปรตีนคอนเซนเทรต (WPC-Whey Protein Concentrate)

เวย์โปรตีนชนิดนี้ จะมีความเข้มข้นอยู่ประมาณ 70-80% เป็นผงสีครีมอ่อน และมีกลิ่นรสตามธรรมชาติแบบนม เต็มไปด้วยกรดอะมิโนครบทั้ง 20 ชนิด และกรดอะมิโนจำเป็นอีก 8 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น ป้องกันการติดเชื้อ และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

2 เวย์โปรตีนไอโซเลต (WPI-Whey Protein Isolate)

เวย์โปรตีนชนิดนี้ได้จากการนำ เวย์โปรตีน คอนเซนเทรท มาผ่านกระบวนการผลิตเพิ่มเติม ทำให้มีความเข้มข้นของโปรตีนสูงขึ้นไปอีก มากกว่า 90% เป็นผงสีครีมอ่อน และมีกลิ่นธรรมชาติแบบนมเหมือนกัน เวย์โปรตีนชนิดนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างมวลกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ

3 เวย์โปรตีนไฮโดรไลซ์ (HWP-Hydrolyzed Whey Protein)

เป็นเวย์โปรตีน ที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ ทำให้โมเลกุลของเวย์โปรตีนที่มีขนาดใหญ่ ถูกย่อยจนเป็นเปปไทด์ ทำให้มีโปรตีนบริสุทธิ์สูงถึง 100% ซึ่งมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บอกด้วยว่า เวย์โปรตีนในรูปแบบของเปปไทด์นั้นร่างกายจะดูดซึมได้ดีที่สุด ซึ่งมีงานวิจัยทางคลินิกแสดงให้เห็นว่าเวย์โปรตีน สามารถช่วยส่งเสริมภาวะโภชนาการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งดีขึ้นได้ โดยส่วนมากแล้ว มักจะนำไปผสมกับเวย์ชนิดอื่น ตามสูตรของแต่ละคน เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานเพราะเวย์ชนิดนี้จะมีรสขม 

  

อยากกล้ามใหญ่ ไม่กินเวย์โปรตีน แล้วต้องกินอะไร?

ในปัจจุบัน คนกินโปรตีนส่วนใหญ่มีเป้าหมายอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ 

1.ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก 2.ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ โดยคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อมักจะพิถีพิถันในการกินอาหารเป็นพิเศษ โดยเน้นกินอาหารประเภทโปรตีนไขมันต่ำ และที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ เวย์โปรตีนสำเร็จรูป แต่นอกจากเวย์โปรตีนแล้วก็ยังมีอาหารทางเลือกอื่น ๆ อย่างเช่น ไข่ขาวและอกไก่ นมประเภทต่างๆ ที่ให้โปรตีนไม่แพ้กัน 

โดยคน 2 กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวก็จะมีการกินโปรตีนที่แตกต่างกัน

  • ในคนทั่วไปต้องการโปรตีน      0.8-1 กรัม/น้ำหนักตัว      1 กิโลกรัม/วัน
  • ในคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อต้องการโปรตีน      2-3 กรัม/น้ำหนักตัว      1 กิโลกรัม/วัน (มากกว่าคนทั่วไป 2-3 เท่า)

ยกตัวอย่างการรับประทานอาหารในคนที่มีน้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม 

1.หากเป็นคนทั่วไปจะต้องได้รับโปรตีน = 75 x 1 เท่ากับ 75 กรัม/วัน 

2.ถ้าสำหรับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อจะต้องได้รับโปรตีน = 75 x 2 หรือ 3 เท่ากับ 150-225 กรัม/วัน 

ดังนั้นใน 1 วันเราก็รู้ว่าจะต้องกินโปรตีนเท่าไหร่ตามน้ำหนักและเป้าหมายของเราเอง โดยจะแบ่งกินมื้อเช้า เที่ยง เย็นระหว่างออกกำลังกาย หรือหลังออกกำลังกาย ในปัจจุบันนี้เวย์โปรตีนเป็นตัวช่วยที่ดีเพราะดื่มง่ายได้โปรตีนสูง และประหยัดเวลา แต่อย่าลืมว่าต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ด้วย เพียงแค่นี้ก็ไปถึงเป้าหมายของแต่ละคนแล้วละค่ะ 


 When life hurts running heals

การออกกำลังกายง่ายๆเพียงแค่วิ่งไปข้างหน้าช้าๆทำให้ชีวิตใครหลายคนค่อยๆเปลี่ยนไปตลอดกาลนั้นไม่เกินจริง สำหรับใครที่มีความเครียดสะสมในเรื่องราวต่างๆของชีวิต เราอยากแนะนำให้ทุกคนลองออกไปวิ่งเบาๆที่สวนใกล้บ้าน จะวิ่งๆเดินๆให้เสียเหงื่อกันสักเล็กน้อย

วิธีการนี้เปลี่ยนมุมมองชีวิตและลดความเครียดลงได้ของใครหลายๆคนเลยทีเดียว
Running heals อย่างไรมาดูกัน

1.การวิ่งเบาๆให้ได้เหงื่อ ทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข(Endorphin)ออกมาทำให้ลดความเครียดทำให้หลังวิ่งเกิดอาการฟินกันเลยทีเดียว

2.ได้ฝึกความแข็งแรงของร่างกายทำให้หัวใจแข็งแรง อาการเหนื่อยง่ายเวลาขึ้นลงบันไดหรือเดินนานๆก็จะเหนื่อยน้อยลง อึดทึกทนขึ้น

3.เพิ่มกล้ามเนื้อโดยรวมให้กับร่างกายและแข็งแรงขึ้น

4.ลดไขมันทั้งตัวได้ดีมากๆ แถมหุ่นลีนขึ้นหน้าเรียวลงอย่างเห็นได้ชัด

5.มีสมาธิได้อยู่กับตัวเองขณะวิ่ง ฟังเพลงที่ชอบเพลิดเพลินไปขณะวิ่ง

6.และการออกไปวิ่งยามเช้าหรือเย็นที่สวนสาธารณะใกล้บ้านทำให้ผ่อนคลาย ได้เห็นต้นไม้ใบหญ้า น้องหมาแมว ระหว่างทาง

7.ลดอาการเศร้า เหงา ได้เป็นอย่างดี

มีความสุขง่ายๆไม่เสียใจแต่เสียเหงื่อ รักษาใจ กาย ได้อย่างยอดเยี่ยม อย่าลืมลองออกไปวิ่งกันนะคะชาวโลก


  

เริ่มต้นดูแลตัวเอง

ผู้หญิงและผู้ชายที่เริ่มคิดอยากดูแลตัวเองคงจะแอบคิดเหมือนกันว่าเอ๊ะ แล้วเราจะเริ่มกันที่ตรงไหน

เอาเป็นว่าวันนี้เอ็นโปรเวย์ จะมาบอกการเริ่มต้นง่ายๆที่ทุกคนก็ทำได้ มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีมีออร่ากันเถอะ

เพียง 3 เริ่มง่ายๆ

1.เริ่มจากการพักผ่อนให้เพียงพอ

ชั่วโมงการนอนหลับที่เพียงพอของแต่ละวัย

18-25 ปี ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม 7-9 ชั่วโมง

26-64 ปี ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม 7-9 ชั่วโมง

65 ปีขึ้นไป ชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม 7-8 ชั่วโมง

โดยการนอนหลับที่เพียงพอนั้น คือการที่เรานอนแล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเอง และสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ทำกิจกรรมต่างๆได้แบบไม่อ่อนเพลีย และการนอนหลับที่มีคุณภาพดีในช่วงเวลาที่เหมาะสมยังสร้าง โกร๊ธฮอร์โมน (Growth Hormone)หรือที่ใครๆพูดกันว่าฮอร์โมนหน้าเด็กนั้นเอง Growth Hormone จะหลั่งออกมาในช่วง 23.00 น.-1.30 น.ของแต่ละวันเท่านั้น โดยถ้าใครที่นอนหลับในช่วงนี้เป็นต้นไปจนตื่นขึ้นมาเองในตอนเช้า คุณมาถูกทางแล้วในการเริ่มต้นดูแลตัวเองในเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ

2.เริ่มกินอาหารที่มีประโยชน์

การเริ่มกินอาหารที่มีที่มีประโยชน์ทุกๆคนก็พอจะทราบกันแล้วคือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

· อาหารหลักหมู่ที่ 1 โปรตีน ( เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ) หรือโปรตีนเสริม

· อาหารหลักหมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ( ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน )

· อาหารหลักหมู่ที่ 3 เกลือแร่ และแร่ธาตุต่าง ๆ ( พืชผัก )

· อาหารหลักหมู่ที่ 4 วิตามิน ( ผลไม้ ) หรือวิตามินเสริม

· อาหารหลักหมู่ที่ 5 ไขมัน ( ไขมันจากพืชและสัตว์ )

โดยบางหมู่ทุกๆคนก็สามารถเลือกกินเสริมได้จากแหล่งต่างๆได้เช่นบางคนอยากกินโปรตีนให้พอก็เลือกกินเวย์โปรตีน เสริม หรือ วิตามินบางคนไม่ชอบกินผลไม้ก็เลือกกินวิตามินในรูปแบบเม็ด น้ำหรือผง ซึ้งปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย

เพราะฉะนั้นเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ก็จะส่งผลให้สุขภาพร่างกายและหน้าตาผิวพรรณก็จะสดชื่นขึ้น 

3.เริ่มออกกำลังกาย 

การเริ่มออกกำลังกายทุกคนอาจจะมองว่ายากจังฉันเหนื่อยแค่ทำงานเลิกงานกลับบ้านก็เหนื่อยแล้วจะเอาเวลาไหนไปออก อยากให้ทุกคนลองเริ่มจากการ ออกกำลังการแบบง่ายๆเพียง 15-30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์

เพียงเท่านี้ก็เป็นการเริ่มต้นดูแลตัวเองแล้ว พอเราทำไปได้ระดับหนึ่งร่างกายก็จะมีความแข็งแรงขึ้น สดชื่นขึ้นอย่างแน่นอนก็จะส่งผลให้หน้าตาสดชื่น สดใสกันได้เลยทีเดียว 

มาเริ่มดูแลตัวเองให้ดูดีมีออร่ากันนะคะ เพียงแค่ 3 เริ่มเท่านั้น

  

อะไรคือ BCAAs?

BCAAs คือการเรียงตัวกันของโปรตีนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มของกรดอะมิโนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการซ่อมแซมหรือสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ ซึ่งในจำนวนทั้งหมด 20 ประเภทนั้น ส่วนใหญ่แล้วร่างกายสามารถผลิตเองได้ แต่มีที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้ อย่างเช่น ลิวซีน (Leucine) วาลีน (Valine) และ ไอโซลิวซีน​ (Isoleucine) ซึ่งสารเหล่านี้ได้มาจากการรับประทานอาหารเข้าไป หรือมาจากพวกอาหารเสริม

อะไรคือประโยชน์ของการได้รับ BCAA’s อย่างพอเพียง

1.BCAAs หลักๆ ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยการเติบโตของกล้ามเนื้อ

ในงานวิจัยหนึ่งพบว่าคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มี BCAAs 5.6 กรัม หลังจากออกกำลังแบบใช้แรงต้าน มีอัตราการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อมากกว่า 22% เมื่อเปรียบเทียบกับอีกคนที่ดื่มเครื่องดื่มชนิดเดียวกันแต่ไม่มีส่วนผสมของ BCAAs แต่ถึงแม้ว่า BCAAs จะช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนกล้ามเนื้อได้ก็ตาม สารเหล่านี้ยังจำเป็นต้องพึ่งพากรดอะมิโนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวมันเองให้ได้สูงสุด อย่างเช่นกรดอะมิโนที่เราพบได้จากแหล่งอาหารโปรตีน เช่น เนื้อไก่ ดังนั้นการกินอาหารเสริมอย่างเดียวโดยปราศจากอะมิโนอื่นจึงไม่ช่วยอะไร

2. ลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ

บางงานวิจัยแนะนำว่า BCAAs สามารถลดอาการเจ็บเมื่อยล้าหลังจากออกกำลังกายได้ เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะมีอาการเจ็บ ปวดล้า หลังจากออกกำลังไป 1-2 วัน โดยเฉพาะหากเป็นการออกกำลังแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากกิจวัตรเดิมๆ การเจ็บปวดของกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย เรียกว่า Delayed onset muscle soreness (DOMS) ซึ่งจะมีอาการหลังจากออกกำลังกายไปแล้ว 12-14 ชั่วโมง และอาการจะกินเวลาไปได้ถึง 72 ชั่วโมงเลยทีเดียว

3. ลดความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกาย BCAAs

ช่วยในเรื่องของการลดอาการเจ็บของกล้ามเนื้อและยังลดอาการเหนื่อยล้าหลังออกกำลังได้อีกด้วย ทุกคนล้วนมีประสบการณ์เกี่ยวกับความเหนื่อยล้าและอ่อนแรงหลังจากออกกำลังกายมาแล้วไม่มากก็น้อย การจะฟื้นตัวจากอาการเหล่านั้นได้เร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความหนักและระยะเวลา สภาพแวดล้อม ภาวะโภชนาการ และระดับความแข็งแรงของร่างกาย

4. ป้องกันอาการกล้ามเนื้อสลาย

BCAAs ช่วยป้องกันการสลายของกล้ามเนื้อได้ โปรตีนในกล้ามเนื้อนั้นมีการเสื่อมอยู่ตลอดเวลาและในขณะเดียวกันก็มีการสร้างขึ้นมาใหม่ อาการกล้ามเนื้อสลายเกิดขึ้นเมื่อการเสื่อมของโปรตีนในกล้ามเนื้อนั้นมากกว่าอัตราการสังเคราะห์โปรตีนขึ้นมาทดแทน อาการกล้ามเนื้อสลายเป็นสัญญาณจากการขาดสารอาหาร และอาการติดเชื้อเรื้อรัง มะเร็ง การงดอาหาร หรือกระบวนการเสื่อมถอยตามธรรมชาติจากอายุที่เพิ่มขึ้น

ในร่างกายมนุษย์ BCAAs นั้นมีสัดส่วนถึง 35% ในโปรตีนกล้ามเนื้อ และมีสัดส่วนถึง 40% ของกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการโดยรวม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายจะต้องได้รับโปรตีนทดแทนอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกัน และชะลอ หรือหยุดอาการกล้ามเนื้อสลาย 

5. มีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับตับ

BCAAs นั้นยังสามารถช่วยในด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วยโรคตับแข็งและโรคเรื้อรังที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของตับ เมื่อตับไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ มันจะไม่สามารถกำจัดของเสียจากเลือดได้ ซึ่ง BCAAs นั้นสามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดของเสียจากเลือดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1.ผมร่วงเยอะกว่าปกติ
การที่ผมร่วง หรือผมสุขภาพไม่ดี สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนน้อยเกินไป เนื่องจากเส้นผมต้องการโปรตีนเพื่อไปสร้างความแข็งแรงให้กับรากผม ดังนั้นถ้าหากไม่อยากให้ผมร่วงไปมากกว่านี้ล่ะก็ ควรทานโปรตีนให้มากขึ้น

2.ผิวแห้ง ผิวหยาบ เล็บเปราะ
การได้รับโปรตีนไม่เพียงพอยังส่งผลให้ผิวหนังแห้งกร้าน ไม่มีความยืดหยุ่น ผิวเหี่ยวย่นจนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน และเล็บเปราะหัดง่ายอีกด้วย

3.อ่อนเพลียง่าย
เมื่อได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หายใจถี่ เมื่อยล้า โดยโปรตีนถือเป็นส่วนประกอบสำคัญหนึ่งของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง และมีหน้าที่สำคัญในการลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย

4.ป่วยบ่อย
หากร่างกายขาดโปรตีน คุณอาจป่วยง่ายขึ้นและบ่อยขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อนำไปสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเมื่อร่างกายแข็งแรงแล้ว ภูมิคุ้มกันเราก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

5.แผลหายช้า
หากคุณได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง และหายช้าเกินไป อาจเป็นสาเหตุมาจากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ดังนั้นหากใครพบปัญหานี้อยู่ ให้ลองสำรวจตัวเองดูว่าทานโปรตีนมากพอหรือยัง

6.สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
โดยปกติ เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ร่างกายจะนำโปรตีนที่สะสมไว้ในกล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscles) มาใช้แทน การขาดโปรตีนเป็นระยะเวลานานจึงอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ หรือที่เราเห็นคนที่ผอมมีแต่กระดูกดูไม่มีน้ำมีนวลนั้นเอง 

ลิขสิทธิ์ ©2025 Enprowhey - สงวนสิทธิ์ทุกประการ


ขับเคลื่อนโดย

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด

ยอมรับ